8 สัญญาณเตือนภัยมะเร็งรังไข่
หลังจากที่ได้เล่าประสบการณ์ของผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยมะเร็งรังไข่แล้ว ก็จะเห็นว่าก่อนที่เราจะรู้ว่าเป็นมะเร็งนั้นก็จะมีอาการผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย หากเราไม่ใส่ใจหรือคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดากินยาเดี๊ยวก็หายก็อาจจะกลายเป็นมะเร็งในระยะที่เกินจะเยียวยาแล้วก็ได้
วันนี้ผมมี 8 สัญญาณเตือนภัยมะเร็งรังไข่ มาฝากผู้อ่าน เพราะกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้คุณผู้หญิงรอดพ้นจากมะเร็งรังไข่ได้นั้น คือ การตรวจพบในระยะแรกๆ ซึ่งผู้หญิงสามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ด้วยตัวเอง ซึ่ง แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุขโข สูติ-นรีแพทย์และหัวหน้าแผนกสูติกรรม โรงพยาบาลพิจิตร ได้แนะนำวิธีสังเกตอาการของมะเร็งรังไข่ไว้ในหนังสือชุดโรคภัยใกล้ตัว ต้านมะเร็งรังไข่ ดังต่อไปนี้
1.เบื่ออาหารหรืออิ่มเร็ว เพราะมะเร็งเป็นก้อนขนาดใหญ่อยู่ในรังไข่ จึงไปกดทับกระเพาะอาหาร ลำไส้ และมะเร็งผลิตน้ำออกมาในช่องท้อง
2.ท้องโตขึ้น ท้องน้อยนูนขึ้น ลักษณะคล้ายคนท้องหรือมีพุง แม้ว่าจะกินน้อย เพราะมะเร็งเป็นก้อนขนาดใหญ่อยู่ในรังไข่ หรือมะเร็งรังไข่ผลิตน้ำออกมาในช่องท้อง
3.ปวดท้องน้อย ท้องอืด จุกเสียด หรือปวดทั่วท้องเป็นประจำ
4.ปัสสาวะผิดปกติ มีอาการแสบขัดบ่อยครั้ง และรู้สึกปัสสาวะไม่สุด เพราะก้อนมะเร็งรังไข่ไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ
5.ปวดหลังมาก ในบางคนอาจจะมีอาการปวดจนเดินหรือนั่งไม่ไหว เพราะมะเร็งรังไข่ไปรบกวนการทำงานของเส้นประสาทบริเวณหลัง
6.ท้องผูกเรื้อรัง ขับถ่ายไม่สะดวก จนทำให้ตัวร้อนคล้ายเป็นไข้ เพราะมะเร็งรังไข่ไปกดทับลำไส้ใหญ่หรือกระจายไปยังลำไส้
7.ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย หรือมาครั้งละมากๆ เป็นเวลานาน เพราะเจ้ามะเร็งจะสร้างฮอร์โมนเพศไปรบกวนการทำงานของรังไข่
8.หากเป็นมะเร็งรังไข่นานมากๆ จะเกิดอาการอ่อนเพลียรุนแรง ตัวซีด หลายใจหอบเหนื่อย เจ็บในอก ตาเหลือง ตัวเหลือง และมีอาการผิดปกติอื่นๆ แล้วแต่พื้นฐานสุขภาพของผู้ป่วย
นี้ก็เป็นข้อสังเกตหลักๆ ของผู้ที่อาจจะเข้าข่ายเป็นมะเร็งรังไข่ ซึ่งผู้หญิงควรสังเกตอาการผิดปกติเหล่านี้อย่างละเอียด และหากพบอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย เพราะการตรวจพบมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งชนิดอื่นๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ และเข้ารับการรักษาในทันที จะช่วยให้ผู้ป่วยร้อยละ 90 มีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 5 ปี หลังเข้ารับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยร้อยละ 80 เมื่อมาพบแพทย์ก็จะพบมะเร็งในระยะหลังๆ หรือลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ แล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะบอกว่า มีอาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ จึงไม่ได้ใส่ใจ ทานยาแล้วหายก็คงไม่มีอะไร
แต่ผมอยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านที่ได้อ่านทราบว่า ต่อให้มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามนี้ ไม่ว่าจะเป็นมากเป็นน้อยก็ตามทางที่ดีไปพบแพทย์ดีกว่าครับ จากประสบการณ์ตรงของผมเอง
วันนี้ผมมี 8 สัญญาณเตือนภัยมะเร็งรังไข่ มาฝากผู้อ่าน เพราะกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้คุณผู้หญิงรอดพ้นจากมะเร็งรังไข่ได้นั้น คือ การตรวจพบในระยะแรกๆ ซึ่งผู้หญิงสามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ด้วยตัวเอง ซึ่ง แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุขโข สูติ-นรีแพทย์และหัวหน้าแผนกสูติกรรม โรงพยาบาลพิจิตร ได้แนะนำวิธีสังเกตอาการของมะเร็งรังไข่ไว้ในหนังสือชุดโรคภัยใกล้ตัว ต้านมะเร็งรังไข่ ดังต่อไปนี้
1.เบื่ออาหารหรืออิ่มเร็ว เพราะมะเร็งเป็นก้อนขนาดใหญ่อยู่ในรังไข่ จึงไปกดทับกระเพาะอาหาร ลำไส้ และมะเร็งผลิตน้ำออกมาในช่องท้อง
2.ท้องโตขึ้น ท้องน้อยนูนขึ้น ลักษณะคล้ายคนท้องหรือมีพุง แม้ว่าจะกินน้อย เพราะมะเร็งเป็นก้อนขนาดใหญ่อยู่ในรังไข่ หรือมะเร็งรังไข่ผลิตน้ำออกมาในช่องท้อง
3.ปวดท้องน้อย ท้องอืด จุกเสียด หรือปวดทั่วท้องเป็นประจำ
4.ปัสสาวะผิดปกติ มีอาการแสบขัดบ่อยครั้ง และรู้สึกปัสสาวะไม่สุด เพราะก้อนมะเร็งรังไข่ไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ
5.ปวดหลังมาก ในบางคนอาจจะมีอาการปวดจนเดินหรือนั่งไม่ไหว เพราะมะเร็งรังไข่ไปรบกวนการทำงานของเส้นประสาทบริเวณหลัง
6.ท้องผูกเรื้อรัง ขับถ่ายไม่สะดวก จนทำให้ตัวร้อนคล้ายเป็นไข้ เพราะมะเร็งรังไข่ไปกดทับลำไส้ใหญ่หรือกระจายไปยังลำไส้
7.ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย หรือมาครั้งละมากๆ เป็นเวลานาน เพราะเจ้ามะเร็งจะสร้างฮอร์โมนเพศไปรบกวนการทำงานของรังไข่
8.หากเป็นมะเร็งรังไข่นานมากๆ จะเกิดอาการอ่อนเพลียรุนแรง ตัวซีด หลายใจหอบเหนื่อย เจ็บในอก ตาเหลือง ตัวเหลือง และมีอาการผิดปกติอื่นๆ แล้วแต่พื้นฐานสุขภาพของผู้ป่วย
นี้ก็เป็นข้อสังเกตหลักๆ ของผู้ที่อาจจะเข้าข่ายเป็นมะเร็งรังไข่ ซึ่งผู้หญิงควรสังเกตอาการผิดปกติเหล่านี้อย่างละเอียด และหากพบอาการผิดปกติควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย เพราะการตรวจพบมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งชนิดอื่นๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ และเข้ารับการรักษาในทันที จะช่วยให้ผู้ป่วยร้อยละ 90 มีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 5 ปี หลังเข้ารับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์
แต่โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยร้อยละ 80 เมื่อมาพบแพทย์ก็จะพบมะเร็งในระยะหลังๆ หรือลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ แล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะบอกว่า มีอาการผิดปกติเล็กๆ น้อยๆ จึงไม่ได้ใส่ใจ ทานยาแล้วหายก็คงไม่มีอะไร
แต่ผมอยากให้ท่านผู้อ่านทุกท่านที่ได้อ่านทราบว่า ต่อให้มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งตามนี้ ไม่ว่าจะเป็นมากเป็นน้อยก็ตามทางที่ดีไปพบแพทย์ดีกว่าครับ จากประสบการณ์ตรงของผมเอง
แนะนำทางเลือกใหม่
ตอบลบสมุนไพรพลูคาวสกัดสด 100% จากพืชพลูคาว
ทำลายยับยั้งเชื้อ (Hiv เอดส์) หูดหงอนไก่ สเก็ดเงิน ริดสีดวง มะเร็ง เบาหวาน ไต ไทรอย ไวรัสตับอักเสบบี อัมพฤกษ์ อัมพาต หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภูมิแพ้ ตกขาว
คนที่ใช้แล้วต้องบอกต่อทานแล้วอาการดีขึ้นจริง สำหรับท่านใดสนใจหรือต้องการสอบถาม
สอบถามเพิ่มเติมที่ tel. 0959279523 ID line. Aofaudio0502