ประสบการณ์จริงของผู้พิชิตมะเร็งเต้านม

ใครบอกว่า โรคมะเร็งเต้านม รักษาไม่ได้ เป็นแล้วตายอย่างเดียว ผมขอบอกเลยครับว่าไม่เป็นความจริง เรามาอ่านประสบการณ์ตรงของผู้หญิงคนนี้ครับ

คุณแข-ขนิษฐา พิศพุ่ม อายุ 40 ปี อดีตข้าราชการระดับ 8 ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม ซึ่งคุณแขมีเพื่อนเป็นหมอ บอกให้คลำเต้านมทุกครั้งเป็นประจำ แต่ไม่เคยทำตามเลย คุณแขได้เล่าว่า


"วันหนึ่ง อยู่ดีๆ คุณแม่บอกว่าให้พาไปตรวจสุขภาพ เลยไปตรวจพร้อมกับคุณแม่ปรากฏว่าพบมะเร็งเต้านมก้อนขนาด 6 เซนติเมตร วินาทีที่รู้นั้นไม่ได้กลัวตาย แต่เป็นห่วงคุณแม่กับลูกๆ สองคน เพราะคุณพ่อกับสามีเสียชีวิตไปแล้ว แขบอกคุณหมอว่าจะทำทุกวิธีเพื่อให้มีชีวิตอยู่กับครอบครัวให้นานที่สุด"

คุณแขเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดเต้านมทิ้งทั้งสองข้าง จากนั้นรักษาต่อด้วยการฉายแสง ขณะนี้ผ่านมาแล้วสองครั้ง

"คุณแขเข้ารับการรักษาครั้งที่ 1 รู้เลยว่าร่างกายอ่อนแอกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เพราะผลข้างเคียงทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย แล้วไม่ได้เป็นแค่วันเดียว เป็นนานกว่า 20 วันค่ะ แถมมีอาการเหนื่อยล้า หอบง่าย และเวียนศีรษะด้วย"

"เมื่อฉายรังสีรักษาครั้งที่สอง ผิวบริเวณที่ฉายแสงไหม้เป็นแถบ กลายเป็นสีคล้ำช้ำเลือด ช้ำหนอง รู้สึกปวดแสบปวดร้อน ทรมานและท้อใจแทบจะทนต่อไม่ไหว เพราะเหน็ดเหนื่อยกับผลข้างเคียงมาก คุณภาพชีวิตตกลงเรื่อยๆ ไหนจะค่ารักษาพยาบาลที่แพงเอามากๆ"

"ถึงจะท้ออย่างไร แต่คุณแขก็ได้รับกำลังใจจากคุณแม่และลูกๆ ซึ่งคุณแม่บอกว่าค่ารักษาพยาบาลหาเมื่อไรก็ได้ ตราบใดที่ยังมีแรง และเมื่อฟังดังนั้นคุณแขจึงตัดสินใจสู้สุดชีวิต ปฏิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดทุกข้อ พร้อมกับปรับวิถีชีวิต โดยมากินอาหารสุขภาพ เช่น ถั่ว เต้าหู้ ข้าวกล้อง ผลไม้"


"คุณแขเล่าต่อว่า ระหว่างที่เข้ารับการฉายรังสีรักษา ปฏิวัติตนเองใหม่หมด คือ ให้แพทย์แผนปัจจุบันช่วย และดูแลตัวเองแบบธรรมชาติด้วย โดยนอนตั้งแต่สองทุ่ม ตื่นตีห้าพร้อมคุณแม่และลูกๆ ทุกวัน เพื่อเดินออกกำลังกายหน้าบ้านประมาณ 30-45 นาที ให้พอมีเหงื่อ ปอดได้รับออกซิเจนเต็มที่ และช่วยปลุกร่างกายให้กระฉับกระเฉง คิดเสียว่าผลข้างเคียงจากการเข้ารับรังสีรักษาไม่ได้อยู่กับแขนาน"

"นอกจากนั้น คุณแขยังทำกิจกรรมบำบัดโดยการปลูกผักสวนครัวในกระบะเล็ก บริเวณระเบียงบ้าน เช่น คะน้า ตำลึง พริกขี้หนู เป็นต้น เพื่อนำผักเหล่านั้นที่ปลอดสารพิษมาปรุงอาหาร"

"คุณแขเล่าอีกว่า คุณแม่ของแขประเสริฐยิ่งนัก จะคอยคั้นน้ำผัก ผลไม้ให้ดื่มก่อนกินข้าววันละ 3 ครั้ง มีแอปเปิ้ล แครอท กวางตุ้ง แตงโม และแก้วมังกร สลับกันไป หากวันไหนไม่ได้ไปโรงพยาบาล ช่วงบ่ายๆ แขกับคุณแม่จะผลัดกันนวดตัวค่ะ นวดธรรมดาๆ ไม่มีแบบแผนอะไร แต่พลังแห่งการสัมผัสด้วยความรักนี้มหัศจรรย์เหลือเกิน แขคิดว่าตัวเองหายวันหายคืนเลยละค่ะ"

"ขั้นตอนสำคัญซึ่งลืมไม่ได้ ก่อนนอนแขจะต้องสวดมนต์และภาวนาให้มะเร็งหาย โดยบอกลูกๆ เสมอว่า จะกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงอีกครั้ง และเหมือนปาฏิหาริย์ เพราะทุกวันนี้แขต่อสู้กับมะเร็งเต้านม จนโรคพ่ายแพ้ไปแล้ว"

บอกได้คำเดียวว่า กำลังใจ จากบุคคลในครอบครัว และบุคคลใกล้ตัว พลังใจของตัวเองที่ต้องการจะมีชีวิตอยู่และต่อสู้กับมะเร็งนั้นสำคัญจริงๆ แต่ถึงกระนั้น คุณแขก็จะต้องดูแลสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอนะครับ เพื่อป้องกันการกลับมาของมะเร็งเต้านมอีก ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ ที่มอบให้ผู้อ่านทุกท่านครับ


1 ความคิดเห็น:

  1. ====================
    สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยของ รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ
    สมัครสมาชิก(ฟรี) inbox
    https://www.facebook.com/sesamealthailand (คลิกปุ่มส่งข้อความ) ทักส่วนตัวมานะค่ะ
    http://line.me/ti/p/%40qug7097b
    ======================

    ตอบลบ