ระยะของมะเร็ง

ระยะของโรคมะเร็ง (Stage of Cancer)


     โรคมะเร็งนั้นเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้แล้วในปัจจุบัน(แต่ก็ไม่ 100%)ขึ้นอยู่กับ "ระยะของโรค" และอาการของผู้ป่วยว่าอาการเป็นอย่างไรและอยู่ในระยะไหน ซึ่งเมื่อรักษาหายแล้วจะต้องมาตรวจดูอาการอยู่เสมอไม่ใช่ว่าหมอบอกว่าคุณหายแล้วก็ไม่มาตรวจไม่มาเช็คอีกเลย บางคนเมื่อรักษาหาย ตัดก้อนเนื้อออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีเชื้ออยู่ ทำให้มะเร็งสามารถลุกลามไปที่อื่นๆได้อีก

    สิ่งที่จะกำหนดได้ว่าเมื่อป่วยเป็นโรคมะเร็งแล้วจะมีสิทธฺ์หาย และอยู่ได้อย่างยาวนานหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือ "ระยะของโรคมะเร็ง" ระยะที่ตรวจพบและทำการรักษาซึ่งส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ  คือระยะที่ 1 นั้นจะมีโอกาสที่จะหายขาดและยู่ได้อย่างยาวนานมากที่สุด ส่วนในระยะที่ 4 นั้นมีโอกาสที่จะทำการรักษาให้หายได้น้อยมาก และเมื่อทำการรักษา ตัดก้อนเนื้อร้ายออกไปแล้ว ก็อาจจะอยู่ได้อีกไม่กี่ปี เพราะว่าเชื้อมะเร็งนั้นได้แพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกายแล้วนั้นเอง

     ระยะเป็นตัวบ่งบอกการลุกลาม ความรุนแรง ของโรคมะเร็ง การที่แพทย์ทราบระยะของโรคแพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาและพยากรณ์โรคได้

     ระยะของโรคมะเร็งสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโรคเปลี่ยนแปลงไป

     ระยะโรคแบบ TNM มาจาก T (Tumor) ขนาดก้อน N (Lymph nodes) ต่อมน้ำเหลืองที่มะเร็งลุกลามไป M (Metastasis)  การแพร่กระจายของโรคไปที่อวัยวะอื่น

การแบ่งระยะของโรคอาศัยการตรวจร่างกาย การเอ็กซเรย์ต่าง ๆ ผลเลือด ผลชิ้นเนื้อ ลักษณะของก้อนที่พบจากการผ่าตัด เป็นตัวกำหนด

1. ระยะของโรคมะเร็งคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร?

- เป็นตัวบ่งบอกการลุกลาม ความรุนแรง ของโรคมะเร็ง การที่แพทย์ทราบระยะของโรคแพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาและพยากรณ์โรคได้

- และยังสามารถนำไปเทียบเคียงกับผลการวิจัยที่ทำกับคนไข้ในระยะเดียวกัน เพื่อให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรคและการรักษาได้ดียิ่งขึ้น


2. อะไรเป็นตัวกำหนดระยะของโรค?

- การกำหนดระยะของโรคนั้นขึ้นอยู่กับเซลล์มะเร็งแบ่งตัว เติบโต นอกเหนือการควบคุมจากร่างกาย สามารถเติบโตลุกลามเข้าไปในอวัยวะใกล้เคียง โดยเข้ากระแสเลือด ต่อมน้ำเหลืองได้ซึ่งเรียกว่าการ "ลุกลามแพร่กระจาย (Metastasis)" ซึ่งการลุกลามนี้เองจะเป็นตัวชี้วัดระยะของโรคมะเร็ง


3. ระยะโรคประกอบด้วยอะไรบ้าง และเป็นอย่างไร?

ระยะโรคแบบ TNM เป็นกำหนดระยะของโรคแบบมาตรฐานสากลทั่วโลก กำหนดขึ้นโดย International Union Againt Cancer (UICC) และ The American Joint Committee on Cancer (AJCC)

- ระยะโรคแบบ TNM กำหนดจาก T (Tumor) ขนาดก้อน จำนวนก้อน ตำแหน่งที่ก้อนอยู่ N (Lymph nodes) ต่อมน้ำเหลืองที่มะเร็งลุกลามไปและ M (Metastasis)

การแพร่กระจายของโรคไปที่อวัยวะอื่น

ชนิดของเซลล์และการแทรกแซงเข้าไปในเนื้อเยื่อปกติ


  • ขนาดของก้อน (Primary Tumor) (T)

Tx ไม่สามารถประเมินก้อนได้
T0 ไม่มีหลักฐานของก้อน
Tis มะเร็งระยะต้นๆ ที่อยู่บนชั้นของเซลล์ปกติยังไม่แทรกเข้าไปในเนื้อเยื่อปกติ
T1,2,3,4 ขนาดต่างๆ กันของก้อนจากเล็กไปใหญ่


  • ต่อมน้ำเหลือง (Regional Lymph nodes) (N)

Nx ไม่สามารถประเมินต่อมน้ำเหลืองได้
N0 ไม่พบมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง
N1,2,3 มะเร็งเข้าไปในต่อมน้ำเหลือง (จำนวนต่อมและตำแหน่งต่อมที่แพร่ไป)


  • การแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น (Distant Metastasis) (M)

Mx ไม่สามารถประเมินการแพร่กระจายได้
M0 ไม่พบการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
 M1 แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น

ตัวอย่าง มะเร็งเต้านมระยะ T3N2M0 หมายถึงมะเร็งก้อนใหญ่ที่มีการลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลือง แต่ยังไม่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นของร่างกาย


5. มะเร็งทุกชนิดใช้ระบบ TNM หรือไม่?

     ส่วนใหญ่ใช้ ยกเว้นบางชนิดเท่านั้น เช่น มะเร็งเส้นประสาทไขสันหลัง มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งปากมดลูก  มดลูก รังไข่ ช่องคลอด และมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์มะเร็งในเด็กบางชนิด แต่อย่างไรก็ตามมะเร็งเหล่านี้ก็มีการจัดระยะแบ่งระยะเฉพาะแบบที่เป็นสากล

อย่างไรก็ตามยังมีการจัดระยะอีกแบบหนึ่ง โดยแบ่งเป็น 5 ระยะ คือ

- In situ หมายถึง มะเร็งระยะต้น ๆ (Carcinoma in situ) ที่อยู่บนชั้นของเซลล์ปกติยังไม่แทรกเข้าไปในเนื้อเยื่อปกติ

- Reginal หมายถึง มะเร็งที่แพร่ไปยังอวัยวะหรือต่อมน้ำเหลืองใกล้ ๆ

- Distant หมายถง มะเร็งที่แพร่ไปยังอวัยวะหรือต่อมน้ำเหลืองไกล ๆ

- Unknown หมายถึง ไม่สามารถประเมินได้ว่าอยู่ระยะใด


6. มีวิธีการอย่างไรบ้างเพื่อที่จะทราบระยะของโรค?

- ตรวจร่างกาย
- เอกซเรย์แบบต่าง ๆ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT), คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), เพทสแกน (PET scan)
- ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ
- ผลตรวจชิ้นเนื้อ
- ลักษณะของก้อนที่พบจากการผ่าตัด

7. มะเร็งระยะสุดท้ายคืออะไร จะต้องเสียชีวิตทุกคนใช่หรือไม่?

     ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งจำนวนหนึ่งมาพบแพทย์หลังจากมีการกระจายของโรคแล้ว มักจะเรียกผู้ป่วยระยะนี้ว่า ระยะที่ 4 หรือระยะแพร่กระจาย ในขณะที่ผู้ป่วยบางคนอาจจะเป็นมะเร็งระยะ 1-3 แล้วต่อมาจึงมีการแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น ผู้ป่วยประเภทหลังนี้มักเรียกว่าระยะแพร่กระจายเช่นเดียวกัน แม้ว่าผู้ป่วยจะเป็นมะเร็งระยะที่ 4 แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมดหวังเสียทีเดียว เพราะแพทย์จะให้การรักษาแบบประคับประคอง (Palliative treatment) เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมารจากโรคมะเร็ง และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยนอกจากนี้มะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะแพร่กระจายก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ 4 ที่ได้รับการรักษาแบบประคับประคองแล้วไม่ตอบสนองต่อการรักษา ผู้ป่วยจะค่อย ๆ มีอาการแย่ลง จนกระทั่งเข้าสู่ระยะสุดท้าย (End stage cancer) ซึ่งแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์อื่นจะให้การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายร่วมกับญาติ เพื่อให้ผู้ป่วยทุกข์ทรมานน้อยที่สุดระยะเวลาระหว่างเริ่มแพร่กระจาย (ระยะที่ 4) จนกระทั่งถึงระยะสุดท้าย (End stage) มีระยะเวลาไม่แน่นอนขึ้นกับธรรมชาติของโรค และสภาพร่างกายผู้ป่วยด้วย

ดังนั้นผู้ป่วยและญาติ ควรปรึกษาแพทย์มะเร็งวิทยา เพื่อวางแผนร่วมกันในการดูแลรักษาอย่างดีที่สุด

ผมจะสรุประยะของมะเร็งและอัตราการอยู่รอดเกิน 5 ปี ให้ดูแบบคร่าวๆนะครับ

ระยะที่ 1     อัตราการอยู่รอดเกิน 5 ปี 80%
ระยะที่ 2     อัตราการอยู่รอดเกิน 5 ปี 60%
ระยะที่ 3     อัตราการอยู่รอดเกิน 5 ปี 30%
ระยะที่ 4     อัตราการอยู่รอดเกิน 5 ปี 10%

     เห็นจากการสรุปนี้แล้วจะทำให้ทุกคนเห็นว่าในระยะสุดท้ายนั้นมีโอกาสที่ผู้ป่วยนั้นจะมีอายุยืนหรืออยู่ได้อย่างยาวนานนั้นมีโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่น้อยมาก แต่ใช่ว่าจะเป็นแบบนี้เสมอไป การที่ผู้ป่วยนั้นจะสามารถอยู่กับเราได้อย่างยาวนานนั้นขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของผู้ป่วยด้วยว่ากำลังใจของผู้ป่วยนั้นดีแค่ไหน บางคนอยู่ได้แค่ 3 เดือน บางคนอยู่ได้เป็น 10 ขึ้นอยู่กับกำลังของญาติๆและผู้ที่คอยดูแลผู้ป่วยนั้นมีให้แก่ผู้ป่วยมากน้อยขนาดไหนครับ

ข้อมูลบางส่วนเอามาจาก : http://www.chulacancer.net/newpage/patient-question-stage-of-cancer.html


4 ความคิดเห็น:

  1. ป่วยระยะที่1ค่ะถ้าไม่รักษาจะยืดเวลาได้นานเท่าไหร่คะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ17 มกราคม 2560 เวลา 15:02

    เพิ่มพลังชีวิตใหม่ต่อต้านโรคร้าย ด้วยพลังคอสมิก.....รักษามะเร็งระยะสุดท้าย ไม่เห็นผลยินดีคืนเงิน ติดต่อคุณรสริน line id: jakcosmic

    ตอบลบ
  3. ปรารถนาหายจากโรค/อาการผิดปกติ
    ต้องรู้สาเหตุของที่มาของโรคและความผิดปกติทั้งหลาย
    ดังนี้้
    1. เกิดจากกรรมไม่ดีจากอดีต ทำร้ายผู้มีพระคุณ ทำลายผู้มีความบริสุทธิ์ ทำลายผู้มีบารมี
    2. เกิดจากอยู่ใกล้ชิดคน ที่มีพลังมืด และมีพลังมืดสะสม
    3. เกิดจากอยู่ในสถานที่ หรือเคยไปสถานที่ ที่มีพลังงานผิดปกติ
    4. เกิดจากคุณไสยจากอดีต
    5. เกิดจากคุณไสยปัจจุบัน
    หนทางการรักษาที่มั่นคงคือ ความดี ของผู้ป่วยเพียงพอหรือไม่
    ปรารถนารู้ในสาเหตุ ด้วยตนเอง / และวิธีการรักษา ที่ถูกต้องต่อระบบธรรมชาติทั้งปวง ติดต่อไปที่ Line ID : Jakcosmic, Line ID : Jakcosmic999

    ตอบลบ
  4. มะเร็งระยะที่ 4 ถ้าต้องใช้คู่กับอาหารเสริมที่สร้างเซลล์ใหม่กำจัดเซลล์เก่า แบบนี้ใช้ในการรักษาคู่กันได้ไหม? มันอาจเป็นโอกาสช่วยผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวมากยิ่งขึ้น

    ตอบลบ